วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการกล่าวคำขอโทษ(EXCUSES & APOLOGIES)

ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับการกล่าวคำขอโทษ(EXCUSES & APOLOGIES)

วันนี้จะมากล่าวคำขอโทษมาฝากให้ไปใช้กันเพราะมันเป็นสำนวนติดปากสำหรับคนทั่วโลกไม่ว่าจะทำอะไรช้า ผิดนิดหน่อยเราก้อขอโทษกันทำให้การอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างมีความสุข การขอโทษ ขออภัยจึงถือว่าสำคัญที่สุด
สำนวนภาษาอังกฤษที่เราใช้กล่าวขอโทษกันมีหลายสำนวน ผู้เขียนจะขอหยิบยกมาให้นำไปใช้กันตามที่นิยมและใช้แพร่หลายกันก็พอนะคะ ขืนจำไปมากจะสับสน
ก่อนที่จะใช้สำนวนกล่าวคำขอโทษ เรามาดูศัพท์ภาษาอังกฤษที่มีความหมายว่าขอโทษ ยกโทษ ซึ่งความหมายของศัพท์แต่ละคำนั้นคล้ายคลึงกันและใช้ในการขอโทษเหมือนกันแต่ต่างกันตรงโอกาสและสถานะของการใช้นะคะ
คำแรกคือคำว่า  apologize v.  (อะพ็อลโลไจซ) : หมายถึงการขอโทษ เพราะผู้ขอเกิดความสำนึกและยอมรับว่า ได้ทำได้ทำวามยุ่งยากหรือทำความเจ็บปวดให้กับผู้อื่น เช่น
– I apologized to her for stepping on her foot. ฉันขอโทษที่ไปเหยียบเท้าเธอ
– I apologized to him for my error.ฉันขอโทษเขาที่ได้ผิดพลาดอะไรไปบ้าง
เวลาเราใช้คำว่า apologize ในการขอโทษ เราจะใช้สำนวนหระโยค ที่ว่า
I apologize to ……….(ผู้ที่เราต้องการขอโทษ) for …….(v+ing………(เรื่องที่เราทำผิด)
หรือ apologize for …………….. (เรื่องที่เราต้องการขอโทษ) เช่น May I apologize for coming late. ฉันขอโทษที่มาสายนะคะ
คำต่อไปคือคำว่า forgive v. (ฟอกิฟว) : หมายถึงการให้อภัยหรือยกโทษให้กับผู้ที่ล่วงเกินตนเป็นเหตุให้เกิดอารมณ์เคียดแค้นขึ้นในใจ และเมื่อมีการขอโทษให้อภัยแล้วก็จะได้สบายใจทั้งสองฝ่าย  เช่น
–  He forgive me for being late.
เขาให้อภัยฉันที่มาสาย
– I was pleased to forgive him for what he said to me at the meeting yesterday.
ฉันยินดีที่จะให้อภัยเขาต่อสิ่งที่เขาได้พูดถึงฉันในที่ประชุมเมื่อวานนี้
คำต่อไปคือคำว่า excuse v. (เอ็กซคิวส์) : หมายถึงการยกโทษหรือการให้อภัยในความผิดเล็กๆน้อยๆ ซึ่งเป็นมารยาทในด้านสังคมหรือประเพณี เช่นการพูดขอทางผ่าน การลุกเดินเหินนั่งแล้วไปเบียดหรือเฉี่ยวชนใครเข้าโดยไม่ตั้งใจใช้ excuse เช่น
– Excuse me for not recognising you.
ขอโทษนะคะที่จำคุณไม่ได้
– Please excuse me for miscalling you.
ขออภัยด้วยนะคะที่เรียกชื่อคุณผิด
– Please excuse for the way to go outside.
ขอโทษนะคะขอทางออกไปหน่อย
คำสุดท้ายคือคำว่า pardon v. (พาดัน) :  หมายถึงการขอโทษหรืออภัยโทษ นิยมใช้เมื่อโทษนั้นเป็นโทษหนัก เช่น การทำผิดกฎหมาย หรือผิดศีลธรรมแต่บางครั้ง ก็นำมาใช้ในความหมายว่าไม่ได้ยิน หรือได้ยินไม่ชัด ขอให้พูดใหม่อิกครั้งได้ไหม เหล่านี้เป็นต้น เช่น
– Fifty prisoners were pardoned.
นักโทษ 50 คนได้รับอภัยโทษแล้ว
– Pardon me. Will you please say it again.
ขอโทษนะคะ กรุณาพูดอีกครั้งได้ไหม หรืออาจจะกล่าวสั้นๆ หลังจากต้องการให้ผู้พูด พูดอีกครั้ง คือ
– Pardon me.
เอาละเรารู้ความหมายของแต่ละคำแล้ว เลือกใช้ได้ตามความผิดนะคะ อิอิ ต่อไปเป็นสำนวนที่เรามักจะใช้พูดขอโทษกัน ตามนี้เลยค่ะ
1) Excuses and Apologies
การกล่าวคำขอโทษ  สำนวนที่ใช้กันมากๆ มีตามนี้ค่ะ
– Excuse me. ขอโทษครับ (ค่ะ)
– Pardon me.  ขอโทษครับ (ค่ะ)
– Excuse me for being late. ขอโทษทีฉันมาช้า
– I’m so sorry. ฉันขอโทษเป็นอย่างสูง
– I’m very sorry. ฉันขอโทษเป็นอย่างมาก
– I’m very sorry for not coming yesterday. ฉันเสียใจมากๆที่ไม่ได้มาเมื่อวานนี้
– I’m sorry to have kept you waiting. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณรอ
– I’m sorry I can’t help you. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ช่วยคุณไม่ได้
– I’m sorry to have troubled you. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณยุ่งยาก
– I apologize for breaking my promise. ฉันต้องขอโทษด้วยที่ผิดสัญญา
– It’s my fault. มันเป็นความผิดของฉันเอง
– How stupid of me! ฉันช่างโง่เง่าเสียเหลือเกิน
– I’m sorry I’m late. ขอโทษด้วยที่ฉันมาสาย
2) เมื่อมีผู้กล่าวคำขอโทษเรา การตอบรับ ก็ถือเป็นมารยาทอันสำคัญของเรานะคะ มิเช่นนั้นจะดุเป็นการผิดมารยาทและเหมือนจะไม่ต้องการคำขอโทษอะไรแบบนั้น ห้าๆๆ เดี๋ยวจะคบกันต่อไม่ได้นะจะบอกให้ เอ้อ  การตอลรับคำขอโทษที่ติดๆปากทั่วไปมีตามนี้ค่ะ
– That’s all right.
– Of course.
– Certainly.
– It’s nothing at all.
– Forget it.
– Don’t worry about it.
– It’s wasn’t your fault.
– It doesn’t matter.
ทั้งการกล่าวคำขอโทษ และการตอบรับที่นิยมใช้กันก็มีประมาณนี้แหละค่ะ แต่จริงๆมีมากสำนวนกว่านี้นะคะ เพียงแต่ เราเอาที่ใช้และได้ยินกันบ่อย ๆ ก็พอค่ะ  หวังว่าคงจะเป็นประโยชน์บ้างนะคะ
- See more at: http://www.edufirstschool.com/learn-english/%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a4%e0%b8%a9%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2%e0%b8%a7%e0%b8%81%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3/#sthash.7iwwfd8N.dpuf

สำนวนภาษาอังกฤษ แปล ไทย (สำนวน 2 ภาษา)

สำนวนภาษาอังกฤษ แปล ไทย (สำนวน 2 ภาษา)

การจะเก่งภาษาอังกฤษได้นั้น ควรจะขยันอ่าน ฟัง พูด เขียนให้มากๆค่ะ เพราะการเรียนภาษาอังกฤษให้ได้ผลดีนั้น ต้องมีความพยายาม หมั่นฝึกฝนอยู่เสมอ และอย่าหยุดที่จะเรียนรู้ เท่านี้ก็จะเป็นคนที่เก่งภาษาอังกฤษได้ไม่ยากเลยค่ะ
วันนี้จึงขอนำเสนอเกี่ยวกับสำนวนสุภาษิตภาษาอังกฤษที่ใช้กันแพร่หลายในต่างประเทศที่สอดคล้องกับสำนวนสุภาษิตไทยของเรา เผื่อมีโอกาสได้ใช้เมื่อไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือเวลาสนทนากับเพื่อนชาวต่างชาติ เพื่อให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่นและเราก็สามารถเข้าใจความหมายอย่างแท้จริง
1. Actions speak louder than words.ความหมาย = การกระทำดังกว่าคำพูด2. When in Rome do as the Roman does.
ความหมาย = เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
3. Better late than never.
ความหมาย = มาสายดีกว่าไม่มา
4. As you sow, so you shall reap.
ความหมาย = ทำไว้ยังไงก็จะได้ยังงั้น
5. Barking dogs seldom bite.
ความหมาย = สุนัขเห่ามักจะไม่กัด
6. Eat to live but do not live to eat.
ความหมาย = กินเพื่ออยู่แต่อย่าอยู่เพื่อกิน
7. He laughs best who laughs last.
ความหมาย = หัวเราะทีหลังดังกว่า
8. Never do things by halves.
ความหมาย = อย่าทำอะไรครึ่ง ๆ กลาง ๆ
9. Still waters run deep.
ความหมาย = น้ำนิ่งไหลลึก
10. Like fater like son, like mother like daughter.
ความหมาย = ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น
11. Safety first.
ความหมาย = ปลอดภัยไว้ก่อน
12. Speech is silver, silence is golden.
ความหมาย = พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง
13. Time and tide wait for no one.
ความหมาย = สายน้ำไม่เคยรอท่า วันเวลาไม่เคยรอใคร
14. When the cat is away the mice will play.
ความหมาย = แมวไม่อยู่หนูร่าเริง
15. Health is  Wealth.
ความหมาย = ความไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐ
16. Reading makes a full man.
ความหมาย = การอ่านหนังสือทำให้เป็นคนที่สมบูรณ์
17. Cannot makes head or tail of.
ความหมาย = จับต้นชนปลายไม่ถูก
18. A bad workman always’ blames his tool.
ความหมาย = รำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง
19. Big fish eat little fish.
ความหมาย = ปลาใหญ่กินปลาเล็ก
20. Penny wise and pound foolish.
ความหมาย = เสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย
21. Where there’s a will, there’s a way.
ความหมาย = ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
22. There is a black sheep in every flock.
ความหมาย =  แกะดำ
23.  Still water runs deep
ความหมาย = น้ำนิ่งไหลลึก
24. Blood is thicker than water.
ความหมาย = เลือดย่อมข้นกว่าน้ำ
25. A friend in need is a friend in deed.
ความหมาย = เพื่อนแท้คือเพื่อนในยามยาก
26. Make hay while the sun shines.
ความหมาย = น้ำขึ้นให้รีบตัก
27. Haste makes waste.
ความหมาย =ช้าๆได้พร้าเล่มงาม
- See more at: http://www.edufirstschool.com/learn-english/%e0%b8%aa%e0%b8%b3%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a4%e0%b8%a9-%e0%b9%81%e0%b8%9b%e0%b8%a5-%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2/#sthash.SXu20nbB.dpuf

คําคมภาษาอังกฤษ สั้นๆ โดนๆ พร้อมแปลไทย

คําคมภาษาอังกฤษ สั้นๆ โดนๆ พร้อมแปลไทย

1010586_521305017919082_1484026624_n
เรื่องราวทุกเรื่องนั้นมีตอนจบ… แต่ในชีวิต
ทุกๆตอนจบคือการเริ่มต้นครั้งใหม่…
every story has an end…
But in life.
Every end is a new beginning…
“อนาคต”ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราทำใน”ปัจจุบัน”
The future depends on what we do in the present.
..อย่าสูญสิ้นความหวัง..
คุณไม่อาจรู้ได้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
Don’t lose hope you never know what tomorrow will bring.
..สิ่งที่ผิดก็คือสิ่งที่ผิด..
แม้ว่าทุกคนจะทำมันเหมือนๆกัน
..สิ่งที่ถูกก็คือสิ่งที่ถูก..
แม้ว่าจะไม่มีใครทำมันเลยก็ตาม
Wrong is wrong, even if everyone is doing it. Right is right, even if no one is doing it.
ความทรงจำ…ไม่มีวันตาย
Memories never die.
มันไม่เคยสายเกินไปที่จะลุกขึ้น และเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
It’s never too late, to get up and start all over again.
ถ้าคุณไม่สู้เพื่อสิ่งที่คุณต้องการ…
…ก็อย่าร้องไห้เวลาที่คุณเสียมันไป
If you don’t fight for what you want don’t cry for what you lost.
Some people just act like they are trying to help you.
คนบางคนก็แค่เสแสร้งว่าเขากำลังพยายามช่วยคุณ
- See more at: http://www.edufirstschool.com/learn-english/%e0%b8%84%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a4%e0%b8%a9-%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b9%86-%e0%b9%82%e0%b8%94/#sthash.zDmKtmTF.dpuf

การอำลา (LEAVE TAKING) เป็นภาษาอังกฤษ

การอำลา (LEAVE TAKING) เป็นภาษาอังกฤษ

goodbyeการกล่าวคำอำลาภาษาอังกฤษ เมื่อการสนทนาสิ้นสุดลง  การกล่าวลาก็จะเป็นคำสุดท้ายที่ต้องพูด  ซึ่งมีอยู่หลายรูปแบด้วยกัน บางคนอาจจะประโยคเดียวในทุกๆโอกาศเลย ซึ่งอาจจะผิด  เผื่อให้การใช้คำกล่าวอำลาที่ถูก วันนี้มีคำกล่าวลาที่น่าสนใจนำมาฝาก
การอำลา (Leave Taking)
การอำลา ตัวอย่างคำกล่าวลา ได้แก่
See you again….. พบกันใหม่ …..
(เป็นทางการ) เช่น (เช่น See you again tomorrow/next time/next week/next month/next year/on Monday. เป็นต้น)
See you again.  ( ซี ยู อะเกน)พบกันใหม่  (มักใช้ลาแบบทางการ)
See you later.    ( ซี ยู เเทอร์ )
เดี๋ยวเจอกันนะ  (ใช้ลาแบบไม่เป็นทางการ)
See you soon    ( ซี ยู ซูน)
(เดี๋ยวพบกันนะ )   ใช้ลาแบบไม่เป็นทางการ
See you then     ( ซี ยู เดน)
เดี๋ยวเจอกัน   (ใช้ลาเมื่อมีการนัดหมาย)
Have a nice day  (แฮ็ฟ อะ ไนซ์ เดย์ )
โชคดีนะ วันนี้ขอให้มีความสุข
Have a nice holiday.  ( แฮ็ฟ อะ ไนซ์ ฮอลิเดย์)
วันหยุดขอให้มีความสุขนะ
Have a nice weekend.  (แฮ็ฟ อะ ไนซ์ วีคเค็นด์)
เสาร์- อาทิตย์  ขอให้มีความสุข
Have a good trip. / Have a nice trip. (แฮ็ฟ  อะ กุด ทริพ / อะ  ไนซ์  ทริพ)
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ
Have a goo time. (แฮ็ฟ อะ  กูด  ไทม์ )
ขอให้มีความสุขนะ
Take care/ Take care of yourself. (เทคแคร์ / เทคแคร์  อ็อฟ  ยัวร์เซ็ลฟ)
ดูแลตัวเองด้วย/รักษาตัวด้วย
Sweet dreams  /  Sleep well.  ( สวีท ดรีมส์ / สลีฟ เว็ล )
ฝันดีนะ /  นอนหลับให้สบาย
We’d better be off now. (วีดึ เบ็ดเทอร์ บี อ๊อฟ นาว)
เราจะกลับกันแล้วนะ
Oh, it’s time to go . (โอ อิทส์ ไทม์ ทู โก)
โอ้  ได้เวลากลับแล้ว / ได้เวลาออกเดินทางแล้ว
I think it’s time to go. (ไอ ธิงค์ อิทส์ ไทม์ ทู โก)
ฉันคิดว่า  ได้เวลากลับแล้วนะ
I think I’d better go.  ( (ไอ ธิงค์ ไอดึ เบ็ทเทอร์ โก)
ฉันคิดว่าฉันกลับดีกว่า
I have to go now. (ไอ แฮ็ฟ ทู โก นาว)
ฉันจะต้องไปแล้วนะ
I must go. (ไอ มัสท์ โก )
ฉันจะต้องไปแล้ว
Good luck .  ( กูด ลัค)
โชคดี
Good night. ( กูด ไนท์ )
ราตรีสวัสดิ์/ไปแล้วนะ (ใช้ลาตอนกลางคืน)
Goodbye (กูด บาย) /Bye  ( บาย )
ไปแล้วนะ/ไปล่ะ
- See more at: http://www.edufirstschool.com/learn-english/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%ad%e0%b8%b3%e0%b8%a5%e0%b8%b2-leave-taking-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a4/#sthash.jxoaim50.dpuf

การนําภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวตประจำวัน

การนําภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวตประจำวัน

F6GW8790
การนําภาษาอังกฤษไปใช้ในชีวตประจำวัน
ทุกวันนี้ เราคงปฏิเสธไม่ได้ที่ภาษาอังกฤษเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจําวันเรา เด็กทุกวันนี้ก็เรียนรู้ ภาษาอังกฤษตั้งแต่ชั้นอนุบาล เรียนไปเรื่อย ๆทั้ง grammar และ Conversation เด็กเหล่านี้โชคดีที่เกิดมา พร้อมยุคสมัยที่การเรียนการสอนพัฒนาไปไกล และการสอสารที่รวดเร็ว สามารถเรียนรู้ได้ง่ายจากสื่อต่าง ๆไม่ว่าจะเป็น internet, movie, music, newspaper ที่หาได้ง่ายๆ งั้นเรามาเริ่มต้นมาศึกษาด้วยแบบง่ายๆกันค่ะ
ประโยคภาษาอังกฤษ ใช้ในการทักทายแบบไม่เปนทางการ 
• Hi ฮ๊าย หวดดี
• Hello เฮลโล็ สวัสดี
การนําไปใช้ก็ให้ต่อท้ายด้วยชื่อของคนๆนั้น เช่น
• Hi, Jo. ฮ๊ายโจ หวัดดีโจ
• Hi, Sam. ฮ๊ายแซม หวัดดีแซม
• Hello, Mr. Tom. เฮ็ลโล๊ มิสเตอร์ ทอม สวัสดีคุณทอม
• Hello, Susan. เฮ็ลโล๊ซู๊ซัน สวัสดีซูซาน
เอาสํานวนเหล่านี้ไปฝึกใช้กัน การเรียนภาษาอังกฤษให้เรียนแบบค่อยเป็นค่อยไป เดี๋ยวภาษาก็จะซึมซับเองโดย ั
อัตโนมัติ
ประโยคภาษาอังกฤษ การทักทายอย่างเป็นทางการ
• Good morning.
กุดม๊อนิง
ดีตอนเช้า (สวัสดีตอนเช้า) เช้าถึงเที่ยง
• Good afternoon.
กุดด๊าฟเทอะนูน
ดีตอนบ่าย (สวัสดีตอนบ่าย) บ่ายถึงเย็น
• Good evening.
กุดด๊ฟนิง
ดีตอนเย็น (สวัสดีตอนเย็น) เย็นถึงดึกๆ
และจดจําให้ได้ว่าคําไหนใช้ตอนไหนเวลาเอาไปใช้งานจริงๆก็จะตามชื่อบุคคลนั้นๆเช่น
• Good morning, Mr. John.
กุดม๊อนิงมิสเตอะจอน (สวสดั ีตอนเช้าคุณจอน)
แต่ถ้าเป็นแขกที่เราไม่รู้จักจะใช้คําว่า sir (เซอ = คุณผู้ชาย) madam (แม๊เดิม = คุณผู้หญิง) เช่น
• Good evening, sir.
กุดดี๊ฝนิงเซอะ (สวัสดีครับคณผู้ชาย)
• Good evening, madam.
กุดดี๊ฝนิงแม๊เดิม (สวัสดีครับคุณผู้หญิง)
- See more at: http://www.edufirstschool.com/learn-english/%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%99%e0%b9%8d%e0%b8%b2%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a9%e0%b8%b2%e0%b8%ad%e0%b8%b1%e0%b8%87%e0%b8%81%e0%b8%a4%e0%b8%a9%e0%b9%84%e0%b8%9b%e0%b9%83%e0%b8%8a%e0%b9%89%e0%b9%83/#sthash.WyWTMNfZ.dpuf